วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

- - เ มื่ อ ห้ า ปี ที่ แ ล้ ว - -

คืนนี้ มีผีแม่บ้านมาเข้าสิงร่างตอนเที่ยงคืน ส่งผลให้ฉันขยันผิดปรกติ นั่งล้างห้องน้ำ ล้างตู้เย็น ทำความสะอาดห้องครั้งใหญ่
ทำความสะอาดห้อง ตอนกลางคืน อากาศเย็นๆ เปิดเพลงเบาๆ เหมือนได้กวาดขยะออกจากใจ ให้มันสะอาดไปพร้อมๆกับห้อง
เหมือนกัน ^__^

เวลาตีสาม เหงื่อซึมๆ ฉันกำลังจะอาบน้ำเข้านอน สายตาเหลือบไปเห็น สมุดเล่มหนึ่งที่เคยพยายามหาอยู่หลายครั้ง ไปนอนหลบ
อยู่ในซอกมุมมืด ของตู้เสื้อผ้า



ฉันเปิดมันออกมา ความรู้สึกเหมือนเพื่อนสนิท ในครั้งก่อน ที่ไม่ได้เจอ ไม่ได้พูด ไม่ได้คุยกันเสียนาน บอกเล่าเรื่องต่างๆในอดีตให้ฉันฟังอย่างตั้งใจ ฉันเปิดอ่านทีละหน้า บางหน้าก็ทำให้ฉันยิ้ม กับความคิดแบบบ้าๆ บอๆ ของตัวเอง บางหน้าก็ทำให้ฉันน้ำตาซึม กับการสูญเสีย บางหน้าอ่านๆไป ก็ถึงขั้นระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทั้งๆที่กระดาษแผ่นนั้นกำลังเล่าเรื่องที่น่าโกรธแค้น ในอดีต

กาลเวลาผ่านไป สมุดเล่มนี้ ก็ยังบอกเล่า เรื่องในอดีตให้ฉันฟัง ตามหน้าที่ของมัน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
คืนนี้ฉันนอนหลับอย่างเป็นสุข โดยมีสมุดเล่มโปรด อยู่ในมือ ^__^

* * * ความสุขของการเขียนไม่ได้อยู่ที่ว่าจะมีคนอ่านหรือไม่ แต่มันสุขที่ได้เขียน

ไข่ย้อยบอกกับดากานดาแบบนั้น - - ภาพยนตร์ เพื่อนสนิท * * *

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

- - ล า ง บ อ ก เ ห ตุ - -

ได้รับ Fwd Mail ฉบับนึง อ่านแล้ว รู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ - -"

ใครกำลังรู้สึกเหมือนฉันไหมว่า ความรุนแรงและมหันตภัยไร้ระเบียบ กำลังรอถล่มเราอยู่?

ไม่รู้จะพูดเกินเหตุไปไหมนะ ไม่ถึงกับหวาดผวา แต่ว่าหวั่นนิดๆ หลังจากเกิดพายุนาร์กิสถล่ม แผ่นดินไหวที่จีน น้ำท่วมต่อมา แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น แล้วตอนนี้ยังมีพายุที่ฟิลิปปินส์อีก เชื่อว่าตัวเลขผู้เสียชีวิต 87,000 คนและสูญหายอีก 5 ล้านคนจากแผ่นดินไหวที่จีน ยังเป็นเรื่องที่ช็อกเราอยู่ จนน่าตั้งคำถามว่า ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวนั้น มีอะไรเตือนล่วงหน้ากันบ้างไหม ?

ว่ากันว่า ลางสังหรณ์ หรือ Omen ก่อนหน้าเหตุการณ์นั้น เป็นสิ่งที่ใครหลายๆ คนที่จีน ใช้เป็นข้อเสนอให้มีการหยุดงานเพื่อเตรียมรับมือกับธรณีพิบัติ แต่มันก็เป็นแค่ ลางสังหรณ์ ไม่มีอะไรยืนยัน คำขอนั้นก็เลยถูกปฏิเสธไปเสีย

เลยจะมาชวนกันดูและสังเกตถึง 10 วันก่อนที่จีนจะพังพินาศกันดีกว่า ว่ามีอะไรกันบ้าง เผื่อจะนำมาเป็นแนวทางการสังเกตในบ้านเราบ้าง

หนองน้ำประหลาด ?


ภาพบ่อน้ำที่เกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ในเบต Enshi ของจีน

ก่อนหน้าเกิดเหตุแผ่นดินไหว 2 สัปดาห์ หรือ 14 วันในเขต Enshi ห่างจากเมือง Wuhan ประมาณ 400 โล ชาวบ้านรายงานไปยังหนังสือพิมพ์ว่า อยู่ๆ วันหนึ่ง ตื่นมาตอนเช้าก็พบหนองน้ำประหลาด ไม่รู้ใครมาขุดตั้งแต่เมื่อไหร่ เพียงแต่ช่วงบ่ายๆ ก่อนหน้าวันนั้น ชาวบ้านได้ยินเสียงครืนๆ แปลกๆ อยู่รอบๆ หมู่บ้าน สัก 4 ชั่วโมงได้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งมาเจอบ่อที่ค่อยๆ มีน้ำผุดขึ้นมาเรื่อยๆ และจุได้ถึง 80,000 ตันเลยทีเดียว

เมื่อถ่ายรูปหนองน้ำที่ยังแห้งผากลงข่าวในหนังสือพิมพ์เรียบร้อยแล้ว ไม่กี่วันถัดมา นักวิจัยที่กลับมาสำรวจก็ต้องอึ้งเมื่อพบว่าน้ำเต็มบ่อ แถมยังมีปลาตัวใหญ่เบ้อเร่อให้ชาวนาได้จับไว้กินอีกด้วย


ภาพปลาขนาดใหญ่ที่ชาวนาจับได้จากหนองน้ำ


เมื่อสัตว์เคลื่อนทัพ ?

หลายวันก่อนแผ่นดินไหว บริเวณที่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 60 ไมล์ มีคนตื่นตะลึงกับจำนวนผีเสื้อนับล้านตัว ที่พากันบินว่อน เกาะกลุ่มเคลื่อนทัพราวกับว่าจะย้ายที่อยู่อาศัยไปไหนก็ไม่รู้ หลายวันถัดมา คือ วันที่ 9 พฤษภาคม 2551 ก่อนหน้าเกิดเหตุ 4 วัน ในมลฑล Jiangsu ก็พบฝูงกบนับพัน พากันออกจากทุ่งนามาข้ามถนนอย่างไม่กลัวตาย ในข่าวบอกว่าหลังจากบันทึกภาพไว้แล้ว พวกมันก็โดนรถทับเละ ไม่รู้ว่ามีกี่ตัวที่อพยพได้สำเร็จ


กบนับหมื่นตัวพากันข้ามถนนในจีน ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2551 ก่อนเกิดแผ่นดินไหว 2 วัน

ภาพฝูงกบนี้ถ่ายได้บนสะพานในเมือง Taizhoun ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาบอกว่า กบเหล่านี้จะมีการย้ายถิ่นเมื่อรู้สึกว่าออกซิเจนในน้ำหรือที่อาศัยลดลงหรือขาดแคลน เพราะพวกมันมีสัญชาตญาณพิเศษและการปกป้องตัวเองจากภัยธรรมชาติ และสามารถรู้สึกได้ถึงความถี่ต่ำจากใต้ดินได้เร็วกว่ามนุษย์

นอกจากผีเสื้อ และกบ ก็มีสัตว์ใหญ่ๆ อีก เช่น สัตว์ในสวนสัตว์ของจีนที่มีท่าทีและปฏิริยาแปลกๆ เป็นต้นว่า หิว แต่ไม่กินอาหาร อยู่ไม่เป็นสุข รวมทั้งหมีแพนด้าที่คนเลี้ยงบอกว่ามันแสดงอาการเศร้าๆ ไม่ร่าเริง เหมือนรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น


ภาพหมีแพนด้าที่ถูกบันทึกว่ามีท่าทีเศร้าสร้อยและไม่ยอมกินไม้ไผ่อาหารโปรด


ภาพกบสามตัวที่เกาะกันแน่นไม่ยอมปล่อย รอดชีวิตอยู่ภายใต้เศษหินจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว

เมฆแผ่นดินไหว?

อย่างที่เคยพูดไว้บ้างแล้ว เรื่องเมฆแผ่นดินไหว ตามทฤษฎีของ Zhonghao Shou นักเคมีชาวจีนที่ศึกษามานานมาก จนยืนยันว่า 70% ของก้อนเมฆที่ถ่ายรูปไว้ มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นตามมา ในเหตุการณ์นี้ก็เหมือนกัน มีนักถ่ายภาพคนหนึ่งถ่ายรูปเมฆเอาไว้เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2551 ก็คือ 2 วันก่อนแผ่นดินไหว ในบริเวณ Linyi มณฑฉาตง (Shandong) จากนั้นเขาเอาภาพเหล่านี้ไปแปะไว้ในเวบไซต์ http://www.daqi.com และวิเคราะห์กันว่า เมฆประเภทคลื่นนี้ เป็นเมฆแผ่นดินไหวที่ชัดเจนที่สุดภาพหนึ่งทีเดียว มันมีลักษณะการเรียงตัวเป็นคลื่นและมีเส้นแสงบนเมฆแปลกๆ ดังภาพ




นอกจากนี้ ยังมีปรากฏการณ์แสงรุ้งบนก้อนเมฆ หรือ “เมฆเรืองแสง” ที่มณฑลชานซี ที่ฮือฮาในข่าวอยู่หลายวัน ซึ่งปรากฏอยู่บนท้องฟ้า 30 นาทีถึง 10 นาทีก่อนเกิดเหตุ



ตอนนี้ 200 กว่าเวบไซต์มีการพูดคุยเรื่องลางสังหรณ์เหล่านี้ทั้งอย่างวิเคราะห์ และบางคนเชื่อว่า นี่คือลางบอกเหตุที่ชัดเจนมากๆ และบอกด้วยว่า ในช่วงหลายวันก่อนเกิดเหตุนั้น นาย Li Shihui นักวิทยาศาสตร์ของจีนได้ทำนายและตั้งข้อสังเกตเหล่านี้ในเวบบล็อกของเขาว่า น่าจะเกิดเหตุแผ่นดินไหวในสเกลที่ใหญ่ว่า 7.0 ริกเตอร์เป็นแน่แท้ จึงมีการเตือนให้รับมือครั้งใหญ่ แต่ทว่าในช่วงเวลานั้น ไม่มีใครสนใจมากนัก พูดง่ายๆ ก็คือไม่มีใครเชื่อนั่นเอง

จนกระทั่งในวันที่ 7 ของเดือนพฤษภาคม หรือก่อนหน้าเกิดเหตุ 5 วัน มีคนโทรแจ้งหน่วยป้องกันแผ่นดินไหวและบรรเทาทุกข์ภัยพิบัติเพื่อให้ช่วยตรวจสอบปรากฏการณ์แปลกๆ เหล่านี้ ถึงเริ่มมีการออกสำรวจถึงข้อพิสูจน์ว่า ข้อสังเกตทั้งหมดนี้จะเป็นจริงหรือไม่

แต่เข้าใจว่า ไม่ทันจะได้สำรวจอะไรเท่าไหร่ เพราะถัดจากนั้นจนถึงวันนี้ ทุกคนก็คงจะได้เห็นแล้ว ว่ามีคำตอบเป็นอย่างไร.

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

- - ห ล ง รั ก ดี ไ ซ เ น อ ร์ ค น นี้ จ ริ ง ๆ - -

adidas ทำให้ต้องอ้าปากค้าง กับ เวบไซด์ของเค้าอีกแล้ว อยากเห็นหน้าตาดีไซน์เนอร์คนนี้จริงๆ ให้ตายเหอะ - -"
ทำเวบไซด์ ได้สนุกมาก เหมือนดูหนังสั้น ดีๆ ซักเรื่องนึงได้ ^__^

เยี่ยมชม เวบ ไซด์ จาก link : http://adidas.com/com/adidassler

มีวิธีรอการโหลดเวบไซด์ ให้ดูไม่น่าเบื่อจริงๆ


เข้าสู่ตัวเวบไซด์ เหมือนเข้าสู่เมืองในนิยายวัยเด็ก


ถ่ายทอดที่มาของ ผลงานแต่ละรุ่น ได้ดูดี ^__^

วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

- - ค ว า ม รู้ สึ ก เ ดิ ม กั บ บ ร ร ย า ก า ศ ใ ห ม่ - -

นิสิตใหม่ชายหญิงทั้งเจ็ดร่วมเดินทาง เก็บเกี่ยวเอาความทรงจำคล้ายๆเดิม ที่เหมือนจะลืมไปแล้ว ความรู้สึกการเป็นนักศึกษา ที่ผ่านพ้นไปได้ซักช่วงเวลาหนึ่ง แล้วก็ได้พบเจอกันอีกครั้ง ความรู้สึกแบบนี้ ทำให้นึกถึงบรรยากาศเดิมๆ ที่กลัวว่า ถ้าไม่บันทึกเก็บเอาไว้ คงจะลืมไปซักวัน อย่างน้อยๆ วันหนึ่ง เดินผ่าน เข้ามานั่งอ่าน คงจะอมยิ้มไม่ผิดกับตอนนี้ ^__^