วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2551

- - I am twenty-sixyz year old - -

บังเอิญได้อ่าน "สิ่งที่ได้เรียนรู้ เมื่ออายุปูนนี้" ของพี่อุดม (แต้)
ก็เลยลองนึก เล่นๆดู ว่าเราเอง อายุปูนนี้ ได้เรียนรู้อะไรบ้างนะ ???
แล้วเธอล่ะได้เรียนรู้อะไรบ้าง จนกระทั่งถึงณ.เวลานี้ อายุเท่านี้

.........ส่วนสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้คือ...........
v
v
v
*******สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ เมื่ออายุ 26 *********
- ฉันเรียนรู้ว่า.......จดหมายลูกโซ่ มันสามารถพัฒนาการตามเทคโนโลยีได้
- ฉันเรียนรู้ว่า.......ความเชื่อบางเรื่อง เราไม่จำเป็นต้องเชื่อ
- ฉันเรียนรู้ว่า.......ร้านก๋วยเตี๋ยวที่บอกให้ "ชิมก่อนปรุง" เราควรจะเชื่อเขา
- ฉันเรียนรู้ว่า.......ผู้ปกครอง และ ผู้ถูกปกครองมีจริง
- ฉันเรียนรู้ว่า.......ไม่แลบลิ้นใส่คนเป็นตาแดง เช้าขึ้นมาเราก็ยังปรกติดี
- ฉันเรียนรู้ว่า.......รถยนต์มันไม่ได้ทำให้เราสบายขึ้นจริง หากนั่งนานเกินไป
- ฉันเรียนรู้ว่า.......การเคารพความคิดของตัวเอง บางทีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
- ฉันเรียนรู้ว่า......."ผู้ชาย" ที่เป็น "ผู้ชาย" นับวันยิ่งน้อยลง
- ฉันเรียนรู้ว่า.......อย่าวัดดวงกับพ่อ แม่ ในทุกๆเรื่อง
เพราะประสบการณ์จะทำให้พวกเค้าชนะเสมอ
- ฉันเรียนรู้ว่า.......คนที่เรียนมาเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าจะนิสัยเหมือนกันไปทั้งหมด
- ฉันเรียนรู้ว่า.......เพื่อนที่ซกมกสุดๆ พอถึงเวลาสอบ ก็แต่งตัวหล่อ จนทำให้เราตกใจได้
- ฉันเรียนรู้ว่า.......หากคุณอยากกินกาแฟที่เรื่องมากที่สุดในโลก แนะนำ
"ร้านแก้วเจ้าจอม" ใต้ตึกครุศาสตร์ ลาดกระบัง
- ฉันเรียนรู้ว่า......."อิทธิพลของสี" ทำให้ฉันเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เมื่อมีการประท้วงที่ผ่านมา
- ฉันเรียนรู้ว่า.......ชุดครุยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เอามาใช้ต่อเมื่อเรียน
พระจอมเกล้าลาดกระบังได้
- ฉันเรียนรู้ว่า.......แลคโตบาซิลัสในยาคูลย์ถ้าไม่อยู่ในความเย็นเกินสองชั่วโมงแล้วจะตาย
- ฉันเรียนรู้ว่า.......คนที่เรียนต่อปริญญาโท ไม่ได้มีแค่พวกเด็กเรียน (ฉันเองก็อยู่หนึ่งในนั้น 5555)
- ฉันเรียนรู้ว่า.......ต้นลำภูไม่ได้มีหิ่งห้อยเสมอไป
- ฉันเรียนรู้ว่า.......ลูกเกดจริงๆแล้วมันคือองุ่น
- ฉันเรียนรู้ว่า.......ตำรวจ(บางคน)ไม่ได้จับโจร แต่กลับเป็นโจรเสียเอง
- ฉันเรียนรู้ว่า.......ปูอัดไม่เด้เป็นเนื้อในอวัยวะส่วนใดของปู
- ฉันเรียนรู้ว่า.......ค้างคาวจะไม่ห้อยหัวเวลาขับถ่าย
- ฉันเรียนรู้ว่า..... คนบางคนถึงแม้จะให้โอกาสแก้ตัวใหม่เขาก็ยังเลือกที่จะทำแบบเดิม

แล้วคุณล่ะ จนอายุปูนนี้ ได้เรียนรู้อะไรบ้าง ????

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

- -เ ป ลี่ ย น- -

"จงพอใจในสิ่งที่ตนมี"
เป็นประโยคคลาสสิค ที่อยู่คู่กับหนังสือวิชา "พุทธศาสนา" ตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ
เรารู้ เราท่องจำ แต่มันทำยากยิ่งจริงๆ
ฉัน เปลี่ยนรูป วอล์ลเปเปอร์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เกือบทุกวัน ทั้งๆที่เวลาทำงานทั้งวันฉันไม่ได้มองดูภาพๆนั้นด้วยซ้ำ...
ฉัน เปลี่ยนเสื้อ วันละหลายครั้ง ทั้งๆที่มันก็เสื้อตัวสีขาวและแบบพื้นๆเหมือนเดิม....
ฉัน เปลี่ยนชื่อ ใน Msn บ่อยๆ เพราะแต่ละวัน อารมณ์มันมักจะไม่คงที่
ฉัน เปลี่ยน รสชาดของอาหารที่กินบ่อยๆ บางช่วงก็นิยมกินแบบรสหวานฉ่ำ บางช่วงก็นิยมกินแบบเปรี้ยวเข็ดฟัน
ฉันปรุงอาหารที่รสชาดมันดีอยู่แล้ว ให้มันแย่กว่าเดิม ทั้งๆที่ร้านอาหารเค้าก็ติดป้ายบอกอยู่แล้วว่า
......................"กรุณา ชิมก่อนปรุง".................................

บ่อยครั้งที่ฉันคิดจะลองทำอะไรซ้ำๆกัน เป็นเวลานานๆ...
บ่อยครั้งที่ฉันมักจะแสวงหาสิ่งใหม่ๆ เสมอ...
ฉันเคยคิดว่า ถ้าฉันสอบติด...ฉันคงจะดีใจ...
ฉันเคยคิดว่า ถ้าฉันเรียนจบ...ฉันคงจะดีใจ...
ฉันเคยคิดว่า ถ้าได้ทำงาน...ฉันคงจะดีใจ...
ถ้าเคยคิดว่า ถ้าฉันอายุ 25... ฉันคงเป็นผู้ใหญ่แบบเต็มตัว...
ซึ่ง ณ ตอนนี้ ฉันจะ 26 ปีแล้ว ฉันก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป้าหมายของชีวิตจริงๆแล้วมันคืออะไร ???????

..............................
แต่รู้อะไรไหม?? การที่เป็นคนที่รู้สึกไม่พอใจอะไรง่ายๆ ช่างเลือก มันเป็นแรงขับเคลื่อนอย่างหนึ่งล่ะ
มันทำให้เรา มองหาอะไรใหม่ๆเสมอ....
มองหาพื้นที่ ที่มันเหมาะกับเราเสมอ..
การพอใจอะไรง่ายๆโดยไม่ไตร่ตรอง...มันคงจะไม่ดีนัก.....
ถึงแม้ณ ตอนนี้ ฉันจะยังมีความรู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่ฉันมี
แต่ซักวันหนึ่ง ฉันเชื่อว่า ฉันคง พอใจกับสิ่งที่ฉันได้เลือกอย่างไตร่ตรองแน่นอน
..............................

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

- - ค ว า ม รั ก ข อ ง เ พ ศ ที่ ส า ม - -

----กลางดึก ของคืนหนึ่ง
*
*
กริ๊งงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงง

ฉันงัวเงีย ไปรับโทรศัพท์ ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนึงพูดพร้อมกับเสียงสะอื้นว่า

"....แก....ฉันไปหาแก....ได้ไหม???......."
*
*
ฉันพยายามปลุกตัวเองให้ฟังเสียงเศร้าๆนั้นอย่างตั้งใจ แล้วฉันก็รู้ว่า
*
*
เสียงนั้น คือ เอ๋...
เอ๋ เป็นเพื่อนคนหนึ่ง ที่จะว่า สนิทกันมากก็ไม่ถึงกับขนาดนั้น เอ๋เป็นเพื่อนคนหนึ่งที่นิสัยดี
คุณมักจะจำ ครั้งแรกที่ได้รู้จักใครสักคนได้ เช่น
ฉันจำเพื่อนบางคนได้ เพราะวันแรกที่รู้จักกันเพื่อนฉันทำกระโปรงขาด วันมาสอบ
ฉันจำเพื่อนบางคนได้ เพราะวันแรกที่รู้จักกัน เค้าแนะนำตัวเองด้วยชื่อจริง อย่างเป็นทางการ
*
*
แต่ ฉันจำเอ๋ได้ เพราะเอ๋ เป็น ผู้หญิง ที่แนะนำ ตัวเองว่า
"...เราชื่อเอ๋...ครับ..."
ถูกต้องแล้ว...เอ๋ เป็น
"ทอม"
--------
ก่อนหน้านี้ ฉันออกจะมอง ผู้หญิง ที่ทำตัวห้าว ก๋ากั่น ดูเป็นทอมบอย ในแง่ร้ายมาก
ฉันมองว่าเค้า..แสดง..พยายาม..และ...ประดิษฐ์..
เอ๋ ทำให้ฉัน มองผู้หญิง เหล่านั้นในมุมที่แปลกออกไป...ตลอดเวลา 4 เดือนที่เราได้รู้จักกัน
เอ๋ ทำให้ฉัน รู้สึก และมอง ความรัก ในแง่มุมที่ฉัน ไม่เคยเห็น
ความรัก ที่...ถึง รักแทบตาย แต่มันก็เป็นไปไม่ได้...
เอ๋ มี แฟน เป็นผู้หญิง.. ทั้งสองคนรักกันดี...คบกันมานาน ถึง ห้าปี...
ครอบครัวของเอ๋รับรู้ และยอมรับ
แต่ปัญหามันอยู่ที่...
ครอบครัวของฝ่ายหญิง..ไม่ได้ยอมรับ..และรับไม่ได้
กับ...ความรักของ"ลูกสาว"บ้านตน... รักกับ..."ลูกสาว"บ้านอื่น
ความรัก ที่มีมาถึง ห้าปี มันถึงเวลาที่ต้องจบลง..เพราะมันเป็นไปไม่ได้
เอ๋ ผิด ที่เกิดมาเป็นผู้หญิง...
เศร้ามาก...มันดูเศร้าจริงๆ..
------------------------
คืนวันนั้น...เอ๋ไม่ได้มาหาฉัน ...เพราะมันดึกมากแล้ว...
ฉันคุยกับเอ๋ ผ่านทางโทรศัพท์ ได้แต่ปลอบใจ..ภาพที่ฉันเห็น ตอนคุยโทรศัพท์
ฉันเห็นเพื่อนผู้หญิง คนหนึ่งของฉัน ช่างอ่อนแอ เหลือเกิน..
ฉันไม่คุ้นกับภาพ ของเอ๋ ที่อ่อนแอ แบบนี้ ฉันนึกไม่ออก
ฉันอยากไปนั่งอยู่ข้างๆ แล้วกอดเพื่อน ผู้หญิง ของฉัน คนนี้ เหลือเกิน
-----------------------
แล้วฉันก็ได้รู้ข่าวว่า.....
เอ๋ กินยาเพื่อจะ "ฆ่าตัวตาย" แต่โชคยังดีที่ล้างท้องทัน
ก่อนหน้านี้...ฉันเคยอ่านข่าว เคยได้ยิน แต่ไม่เคยคิดว่า
คนที่ฉันรู้จัก จะทำแบบนี้...มันสะเทือนใจ เหลือเกิน
ฉันไม่รู้จะช่วยเอ๋...ได้ยังไง
ได้แต่หวัง อยากให้คนอื่นๆ มอง ความรัก ของคู่ "ทอมดี้" ในแง่อื่นบ้าง
ฉันเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา ด้วยความรู้สึก....
ฉันไม่รู้ว่า ควรหรือไม่ ที่เอาเรื่องของเอ๋มาเขียน
แต่ฉันเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะ
หวังว่า เรื่องนี้ อาจจะทำให้คนอื่น รู้สึก และ มองความรัก...ในแง่มุมนี้..ให้ดีขึ้นบ้าง
เผื่อจะเข้าใจ ความรักแบบเอ๋ เหมือนที่ฉันรู้สึก...
....................
ฉันไม่อยากให้ ใครเป็นเหมือน เอ๋ อีก
....................
....................
....................
....................
"บางทีความรักที่เป็นไปไม่ได้ของใครสักคน... อาจเป็นสิ่งสวยงามที่สุดในชีวิต "(พี่บอย ตรัย กล่าวไว้)

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

- - ห อ ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม แ ห่ ง ก ท ม. - -

รอคอยกันมายาว นานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
กับ หอศิลป์
จำได้ว่า ประมาณแปดปีที่แล้ว... พวกรุ่นพี่ตามล่า ลายเซ็นต์
ของ นักศึกษา ในคณะ รวมทั้งคณะอื่นๆด้วย เผื่อหาเสียงสนับสนุน
การสร้าง หอศิลป์อย่างเป็นทางการของประเทศไทย
- - - - -
และแล้ว วันนี้ ก็มาถึง ...เป็นรูปเป็นร่างเสียที
ถึงแม้ว่า จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
แต่ภายในอาคาร..เริ่มมีงานแสดงบ้างแล้ว....
ว่างๆ ไปชมกันบ้างก็ดี
หาเวลา....เสพศิลป์บ้าง...อย่ามัวแต่เสพอย่างอื่น . . .
....................
-- ปิดตา--ปิดหู--ปิดปาก--เปิดใจ--
*
*

*
*
*
เรียงตามลำดับไหล่

*
*
- -Big.... map- -

*
*
- - ห้องแห่งความลับ...หลงทางในนี้นานมาก 555- -

วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

- - N i g h t- - L i f e - -

......"ฉันจะเกษียณอายุ ตอนยี่สิบเจ็ด"......

นั่นคือคำพูด ที่หลุดออกมาจากปากของอารยา
ฉันไม่ได้พูดไป อย่างนั้น
ฉันเที่ยว บอกใครต่อใครด้วยประโยคนี้
ฉันตั้งใจ ไว้ว่า เมื่อไร ที่หลุดจากอายุ ยี่สิบเจ็ด
นั่นก็คือ อายุ ยี่สิบแปด ปีบริบูรณ์
คือการเกษียณอายุ ทางการเที่ยวแล้ว
อายุ ยี่สิบแปด ปี เข้าสู่ วัยผู้ใหญ่ อย่างสมบูรณ์
คงจะ เที่ยวตามใจ อย่างนี้ไม่ได้...
เป็นผู้ใหญ่..ทำอาชีพ...ที่เป็นทางการ

ดังนั้น
ฉันจะเหลือ เพียงแค่ 730 คืน
และ เหลือ เพียงแค่ 104 คืนของศุกร์หรรษา
เหลือวันหยุด เสาร์อาทิตย์ ช่วงปิดเทอม อีกแค่ 32 วัน
เพราะฉะนั้น ช่วงเวลาวัยรุ่น ที่ยังมีเหลืออยู่
ฉันคงต้อง รีบใช้ ชีวิต แบบวัยรุ่นตอนปลายแล้วล่ะ .....

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551

- -เครื่องจักรกล...กำลังทำงาน- -

ตื่นเช้า...ตอกบัตร..
ตื่นสาย...ตอกบัตร...(ไม่ได้กินข้าวเช้า..แถมโดนหักตังค์)
พักเที่ยง...กินข้าว (เหมือนเดิม...สั่งเผื่อด้วย)
บ่าย....กินข้าว ( ได้เวลากินข้าวซะที....ปั่นงานแทบแย่)
เย็น...ตอกบัตร ...กลับบ้าน
ค่ำ...ยังไม่ได้กลับ....ทำโอที
……………………………….
ชีวิตของมนุษย์ วัยทำงาน น่าเบื่อขนาดนั้นเชียว ฉันเองพยายามจะไม่เป็นแบบนั้นเด็ดขาด
ชีวิตของมนุษย์ วัยทำงาน มีเรื่องที่น่าศึกษา อีกเยอะแยะ
ชีวิตของมนุษย์ วัยทำงาน มีความสุขได้ ไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อ ฉันมีความเชื่อแบบนั้น
ถ้า ชีวิต ของมนุษย์ มันขับเคลื่อน ด้วยกำลังใจ และพลัง
ชีวิต ของฉัน คงขับเคลื่อน ด้วยการทำให้ตัวเอง ตื่นเต้น อยู่เสมอ
………………………………
ฉัน ตื่นเต้น เวลาที่ได้พบเพื่อนใหม่
ฉัน ตื่นเต้น เวลาเปลี่ยนงานใหม่
ฉัน ตื่นเต้น เวลาได้ของเล่นชิ้นใหม่
ฉัน ตื่นเต้น เวลาเริ่มเรียนรู้อะไรซักอย่าง
ฉัน ตื่นเต้น เวลาต้องทำอะไรที่รอมานาน จนในที่สุดก็ถึงเวลานั้นซักที
ฉัน ตื่นเต้น เวลาที่คาดหวัง
ฉัน ตื่นเต้น เวลาได้ลองเมนูที่ไม่เคยกิน
ฉัน ตื่นเต้น เวลาเปิดเทอมใหม่
ฉัน ตื่นเต้น เวลาได้ไปสถานที่ ที่ไม่เคยไป
ฉัน ตื่นเต้น เวลาที่ได้ไปอยู่ในสถานที่ ที่ฉันเคยไป และมีเรื่องราวให้นึกถึง
ฉัน ตื่นเต้น ที่ต้องพูดประโยคอะไรซักอย่าง ทั้งๆที่ผ่านการซักซ้อมหรือท่องจำมาอย่างดี
ฉัน ตื่นเต้น เวลาที่อยู่บนเครื่องเล่นในสวนสนุก
ฉัน ตื่นเต้น เวลาที่เพื่อนแนะนำให้ฉันรู้จักกับเพื่อนของเพื่อน
ฉัน ตื่นเต้น เวลาที่รู้สึกว่า ฤดูฝนกำลังจะเปลี่ยนไปเข้าสู่ฤดูหนาว
ฉัน ตื่นเต้น ที่รู้ว่า พรุ่งนี้จะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น
ฉัน ตื่นเต้น ...........................................
……………………………….
ความตื่นเต้น มันเกิดขึ้น แค่ชั่วครู่...... แต่ฉันชอบความรู้สึกนั้น การมีชีวิต มันช่างดีจริงๆ
มีเรื่องที่น่า ตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา.....
ความตื่นเต้น เป็นอีกหนึ่งความรู้สึก ที่ฉันรู้สึกชอบเช่นกัน ^__^
*
*
“ถ้าหากเราจับมนุษย์คนหนึ่งมา..............แล้วรีดเอาความรักออกจนหมดตัว
ก็จะกลายเป็นเพียงแค่ เครื่องจักรกล ชิ้นหนึ่ง ที่กินอาหารวันละสามเวลา
แล้วอึออกมา เมื่อท้องเต็ม หรือเรียกง่ายๆว่า “เครื่องผลิตอึ” นั่นเอง”

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2551

- -เ ที่ ย ว ทั่ ว ไ ท ย - - ไ ป กั บ ร.ฟ.ท.--

เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเพราะเวบไซด์ "การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย" และภาพๆนี้

จุดประกายให้อารยา เกิดอยากนั่งรถไฟ ดูทิวทัศน์สองข้างทางสีเหลืองอร่ามของทุ่งทานตะวัน กับแสงแดดยามเช้า....
อารยาจึงต้องแปลงร่างเป็น "ทูตสันตไมตรี" สร้างกระแส การท่องเที่ยวให้เพื่อนๆ มาท่องเที่ยวไทย ด้วยกัน ^__^
**************************************
และในกลางดึกคืนหนึ่ง.... ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพื่อนๆกำลังปาร์ตี้กันอย่างเมามัน...ได้ที่
อารยา ใส่เสื้อกันหนาวตัวโต สะพายเป้ และกระเป๋าเต้นท์หลังใหญ่เข้าไปในร้าน....เพื่อนๆต่างมึนงง ว่ามันจะมาแนวไหน?
"ทูตสันตไมตรี" ก็ได้เอ่ยขึ้นมาว่า "เฮ้ย...แก..อยากนั่งรถไฟว่ะ... ไปกันป่าว???
ทุกคนนึ่งเงียบ...มึนงง...และคงนึกในใจว่า..."เพื่อนตรู บ้าไปแล้ว - -"
(อย่าว่าแต่เพื่อนเลยค่ะ โต๊ะอื่นเค้าก็มองด้วยสายตาแปลกๆ...ก็อยู่ดีๆ มียัยเพิ้งที่ไหนไม่รู้
สะพายเป้ แต่งตัวยังกะจะไปปีนเขา เข้ามาในร้านแบบนี้ 555555++)
แต่ว่า....ไม่น่าเชื่อ....ไสยศาสตร์มีจริง...ประสบความสำเร็จ....
มีเพื่อนสาวบ้าจี้...ลางานไปนั่งรถไฟด้วยกันถึงสองคนเชียวค่ะ 5555++
เช้าของวันจันทร์ที่ 13 เวลา หกโมงเช้า ทั้งสามสาวมาเจอกันที่ สถานีรถไฟ กินข้าวเช้ากัน
แต่"ทูตสันตไมตรี" ยังมิวายจะทำงาน โทรไปก่อกวนเพื่อนชายอีกคน เวลาหกโมงเช้า - -"
"แก..ไม่ได้เที่ยวกันนานแล้วนะ...นั่งรถไฟเหอะ...แกไม่ไปตอนนี้นะ..แล้วจะเสียใจนะเว้ย..พออยากไปเดี๋ยวก็ไม่มีเพื่อนไป"
ได้ผลอีกแล้วครับท่าน 555 มีเพื่อนชายมาปกป้อง แถมมันชวนรุ่นน้องมาอีกสองคน.. รวมเป็น สามหนุ่ม+ สามสาวที่จะร่วมนั่งรถไฟไปกับทริปนี้ ....^__^

ตอนจะซื้อตั๋ว ถึงขั้นกับมึนงง...ตอนนี้รถไฟไทย เค้าขึ้นฟรีเหรอเนี่ย...อารยาเพิ่งจะรู้ 555+


นั่งรถไฟ เห็นทัศนียภาพที่ต่างออกไป ถึงแม้อากาศจะร้อนไปซักหน่อย แต่บรรยากาศสองข้างทางก็ทำให้เพลินจนลืมความร้อนได้ ^__^ นั่งรถไฟ ถึงสถานีปลายทาง"แก่งคอย" ที่เราต้องไปเปลี่ยนขบวน เพื่อต่อไปยัง "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์"

เรานั่งรถไฟมากันเรื่อยๆ จนกระทั่งผ่านทุ่งทานตะวัน ดังที่ตั้งใจ ภาพที่วาดไว้ ในที่สุดก็จะได้เห็นเสียที ^____^ แต่...................................................................
ด้วยความเข้าใจ และความเชื่อของอารยาเอง ที่คิดว่า ฤดูดอกทานตะวันในเดือนพฤษจิกายน มันน่าที่จะบานตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม - -"
และแล้ว ภาพการนั่งรถไฟ ผ่านทุ่งทานตะวันเหลืองอร่ามในฝัน...
กลายเป็น ต้นทานตะวันแห้งๆ และต้นกล้าทานตะวันสูงไม่ถึงสองเซ็นติเมตร 55555++

(สอบถามพนักงานรถไฟ จึงทราบว่า ช่วงเดือนตุลา ทั่วทั้งจังหวัดลพบุรี จะยังไม่มีดอกทานตะวันบาน เพราะเริ่มปลูก....งานเข้าแล้วซิทีนี้ อารยา...ชวนเพื่อนมาเสียเยอะแยะ - -")

ทำไงได้ละคะ...เดินหน้ามาแล้ว ก็ต้องก้าวต่อไป.......- -"
สอบถาม"นายตรวจตั๋ว" เลยได้ทราบข้อมูลมาว่า ถ้าเราไม่ลงที่สถานี "ป่าสัก" แล้วนั่งเลยไปอีกหน่อย ไปลงที่สถานี "ลำนารายณ์"
จะมี"น้ำตกวังก้านเหลือง"เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่น่าแวะชม
.........เห็นไหมค่ะ ว่าสวรรค์ยังเข้าข้างอยู่....เดินหน้ากันต่อไป ^__^
เราทั้งหก กลับมายิ้ม... กันอีกรอบ เมื่อ รถไฟวิ่งผ่านสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
....... เคยเห็นแต่ในทีวี ของจริงสวยมากค่ะ.........


ขบวนรถไฟ วิ่งไปเรื่อยๆ เขื่อนป่าสัก กว้างใหญ่มากจริงๆ...รถไฟวิ่งจนกระทั่งถึงสถานี "ลำนารายณ์" ก็มีเซอร์ไพร์อีกครั้ง
"น้ำตกวังก้านเหลือง" เป้าหมายที่เราตั้งใจจะมุ่งหน้าไปนั้น ไม่มีรถวิ่งผ่าน..............ซวย แล้วไง ตรู - -"
...............เอาไงดี.....อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ T_____T.................
ปรึกษากัน....ว่าจะเอายังไงต่อดี...แต่บอกแล้วไงว่า....เดินหน้ามาแล้ว...ไม่มีถอยกลับ...55555++
...นั่งคุยกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยว...กินไป คิดไป เอาไงต่อดีหว่า ????.......
แล้วก็เกิดไอเดียปิ๊งขึ้น......
ส่ง... เพื่อนสาวสวย.... ไปเจรจากับเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ที่เราไปฝากท้องตอนมื้อเที่ยง ........
จะขอเช่ารถลุงร้านก๋วยเตี๋ยว... ลุงจะยินยอมหรือไม่......
ได้ผลค่ะ.....ลุงสนน ราคา มาที่ 600 บาทขาดตัว...ห้ามต่อ....แต่เราก็ต่ออยู่ดี....จึงได้มาที่ ราคา 500 บาท...555++........นั่งรถกระบะ เข้าไปที่ น้ำตกวังก้านเหลือง อีกประมาณ สิบกิโลเมตรค่ะ

ถึงที่หมายน้ำตกวังก้านเหลือง....ร่มรื่นมากค่ะ...หนุ่มสาวทั้งหก กระดี๊กระด๊า...ปีนป่าย.. เดินป่า.. กันอย่างหนำใจ
น้ำตกที่นี่ ต้นไม้เยอะดีค่ะ คนก็มีมาเที่ยวบ้าง ยังมีความเป็นธรรมชาติเยอะ...

ดื่มด่ำกับธรรมชาติกันเต็มอิ่ม...ตะวันเริ่มลับขอบฟ้า...ถึงเวลาเดินทางต้องกลับบ้านกันเสียที...การเดินทางแบบไม่มีการวางแผน
ทุลัก ทุเลบ้าง ...พลาดๆ หลุดๆ บ้าง....แต่พอถึงที่หมาย...มันก็คุ้มค่าเหมือนกันเนอะ

ปล...ปีใหม่ เจอกันที่หลวงพระบางนะ เพื่อนๆ ^___^

- - นิ่ ง - -

วันออกพรรษา..คุณนายที่บ้าน ชวนไปวิปัสสนา...ซึ่งไม่รู้ว่า คุณนาย..แอบไปสืบเสาะเจอตั้งแต่เมื่อไร - -"
" ธุดงค์สถาน...วัดสุริโยธิน" วัดแสนสงบตั้งอยู่ด้านหลังความวุ่นวายของ สนามกีฬา ซีเกมส์ นครราชสีมา
ต้องขับรถผ่านเข้าทางด้านหลังของประตูสองของสนามกีฬา.. ผ่านด้านข้างของมหาวิทยาลัย. และทางดินอีกประมาณ 500 เมตร
...การเข้าถึง ลำบากมาก....แต่น่าแปลกใจ.. เมื่อเข้าไปถึงด้านใน..รถยนต์จอดเต็มไปหมดทั่วลานวัด...
...สืบเสาะมา ทราบภายหลังว่า..รถยนต์เหล่านั้น.. ส่วนใหญ่แล้ว.. เป็นสมาชิกในแก๊งค์ของคุณนายทั้งสิ้น 5555++...
......นึกๆแล้วก็ขำ.....แก่ตัวไปฉันจะเป็นเหมือนคุณนายหรือเปล่านะ....ชวนเพื่อนๆเข้าวัด จำศีล..^__^
ฉันก็เลย.... อนุโมธนาบุญ....นุ่งขาว...ห่มขาว..ทำใจเป็นสีขาว...ตามใจคุณนายเสียหน่อย...^__^


ธุดงค์สถาน...เงียบ...สงบ..นิ่ง...นั่งฟังเสียงลมผ่านเข้าออกร่างกาย
..........นอนดึก....ทำวัตรเย็น.............
..........ตื่นเช้า.....ทำวัตรเช้า.............
.......................................
................นิ่ง.....................
......................................
.......................................
ปล. เอาบุญมาฝากทุกคนด้วยค่ะ ^__^

- - M y- - M o t i o n --

จังหวะชีวิตของคน คงมีเป็นจังหวะ เป็นช่วง เหมือนคำที่คุ้นหู "ช่วงชีวิต"
ช่วงชีวิตหนึ่งๆ... กับความทรงจำหนึ่งๆ... กับเพลงๆหนึ่ง... บรรยากาศหนึ่งๆ
เคยเป็นบ้างไหม????
บางทีสิ่งของบางสิ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกันอย่างสิ้นเชิง..
แต่ทำให้คิดถึงเรื่องบางเรื่องได้..
นั่นอาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำว่า "ช่วงชีวิต" ที่ฉันรู้สึก
เคยเป็นบ้างไหม???...
สถานที่บางที่....ทำให้คิดถึงเรื่องบางเรื่อง
เสียงเพลงที่ลอยมา.... ทำให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ
แก้วน้ำจากร้านอาหาร... แค่ใบเดียว...แต่ทำให้นึกถึง คนบางคน
ฝนตก... พัดเอากลิ่นใบหญ้ามา... ก็นึกถึงความสุขเก่าๆ ^__^
นี่ละมั้ง คือ.........."ช่วงชีวิต"

ปล.ชีวิตคน... เมื่อต่างสถานที่... บางทีสถานะก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย...
เหมือนกับ"ภูเขา".. เมื่อตั้งอยู่บนพื้น.. คนก็เรียกว่า "ภูเขา"
แต่เมื่อใดที่ภูเขาไปตั้งอยู่ในน้ำ คนก็เรียกมันว่า "เกาะ" น่าแปลกไหม??? (171051)

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2551

= สวัสดีช่วงปิดเทอม +++

ช่วงปิดเทอม มาถึงแล้ว
ฉันเอง ก็เลยถือโอกาสเอาช่วง ลาพักร้อนที่เหลือ มาพักผ่อนให้สมใจอยาก
ตั้งแต่เรียนมา ไม่ค่อยได้ พบปะเพื่อนฝูงเลย
ถึงแม้จะได้พบ ก็ได้พบแค่บางกลุ่ม และเป็นการเที่ยว สถานที่อโคจรเสียมากกว่า - -"
ช่วงปิดเทอมนี้ ฉันเลย ตั้งใจไว้ว่า จะใช้ชีวิต ปิดเทอม ไปบันเทิง กับสถานที่ธรรมชาติ
หาอากาศบริสุทธิ์เข้าตัว ให้มากๆ ละคะ ^__^
(แต่เอาเข้าจริง ก้อยังไปสถานที่อโคจรอยู่ มิหนำซ้ำ ยังลากยาวมายันเช้าวันใหม่ ฉลองการปิดเทอมวันแรก - -")
อยู่กะแม่ห้าวัน จะชาร์ต แบตเตอรี่ มาให้เต็มอิ่มเลยล่ะ ^__^


"ดอลล่า" กับ "ยูโร" คับป๋ม น่ารักสุดๆเลยเนอะ ^__^

วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2551

- -รั ก ลู ก อ ะ ค า เ ด มี่- - แ ฟ น เ ต เ ซี ย - -

ช่วงเวลาปลายปี ของทุกปี ที่"รักลูก" จะมีกิจกรรมสันทนาการเยอะมาก ทั้งๆที่เป็นช่วงที่งานเยอะ - -"
(เดี๋ยว เดือนหน้า คงมีงานลอยกระทงอีก 555+)
แต่เมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมา...
ได้มีการให้แต่ละฝ่ายส่งการประกวด ในงาน "รักลูกอะคาเดมี่ แฟนเตเซีย"
(งานนี้ฉันเอง หวุดหวิด เกือบได้เป็นตัวแทนเข้าประกวด แต่โชคดี ไหวตัวทัน... โบ๊ยๆ มั่วๆไป ว่างานยุ่ง งานเยอะ 555++)
ภายในงาน มีการโหวต และจัดงาน คล้ายกับ รายการ อะคาเดมี่จิงๆ มี "คอมเม้นต์เตเตอร์" จิงๆ มีการ "โหวต"จิง
มี"ป้ายเชียร์" จิงๆ สนุกมากค่ะ เลยเก็บภาพมาฝากกัน ^__^
*
*
ป้ายประกาศงาน... ติดทั่วบริษัท... นั่งนับให้ถึงวันงาน (เอาซะเหมือนจิงเชียว 555)


กองเชียร์ผู้มาร่วมงาน ล้นหลามมมมมมมมมม


กองเชียร์ ฝ่าย kids and school ทุ่มสุดใจ ^__^


การแสดง"ดนตรีบรรเลงเพลงรัก" (แอบเชียร์ฝ่าย RET ทั้งๆที่ตัวเองอยู่ฝ่าย ROM 5555++)


ผู้ชนะใจ ฝูงชน การแสดง "ลาล่า ลูลู่" จากกลุ่ม แม่บ้าน รักลูก
(น่ารักมาก เคยเห็นแต่เค้าก้มหน้าก้มตา ถูพื้น พอเห็นเค้าแต่งตัวงี้ จำแทบไม่ได้เลย น่ารักมากคะ^__^)

วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551

- - เ รื่ อ ง ขำ ๆ ข อ ง ง า น อ อ ก แ บ บ E p i s o d e 2- -

เดินชิวๆ ผ่านร้านขายยาอยู่ร้านนึง...เกิดความรู้สึกไม่เข้าใจความคิดของเจ้าของร้าน ????
เดินผ่านไป.... มีประตูบานนึง ที่เปิดมาขัดขวางการจราจร บนทางเท้า ที่เราเดินผ่าน ...
และมีข้อความติดไว้ว่า
" กรุณาดึง " ตัวใหญ่มากกกกกกกกกกกกก
และมีอีกข้อความ....ติดที่มือจับ สแตนเลสอันใหญ่ด้วยว่า
"ดึง" ขนาดของข้อความใหญ่พอกัน ...
ใหญ่มากพอที่จะปิดมือจับสแตนเลสที่เค้าได้ออกแบบมาแบบโมเดิร์น....ให้หมดความสวยได้ในพริบตา........


ซึ่งในฐานะและสายตา ของคนออกแบบ เห็นแล้ว รู้สึกหงุดหงิดมากกกกกกกก เพราะไม่เข้าใจความคิดของเจ้าของร้านเลย...- -"
ตอนแรกเห็น ก้อว่าหงุดหงิดแล้ว แต่พอเดินมาด้านหลัง ก็เจอกับอีกสองข้อความ คล้ายๆกัน แต่ต่างกันหน่อยว่า
"กรุณาผลัก" และ "ผลัก"
ขนาดใหญ่ ไม่แพ้ อีกฝากของบานประตู


คือ ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ... แค่รู้สึกไม่เข้าใจว่า ถ้าเค้าจะทำแบบนี้...ตอนแรกเลย จะซื้อประตูบานนี้มาทำไม???
พี่แก เล่นทำซะมันหมดสวยเลยอ่ะ ..... เห็นแล้วอยากจะเดินเข้าไปบอกพี่แกจิงๆเลยว่า...
"พี่คะ..ถ้าจะทำงี้ ซื้อบานประตูแบบธรรมดา มือจับเล็กๆธรรมดา..แล้วก็กรุณา ซื้อ เป็นบานสไลด์นะ..
จะได้ไม่เกะกะขวางทางเดินชาวบ้านเค้าด้วย...เชอะ"
*
*
แต่พอแอบคิดบ้าๆบอๆอยู่คนเดียว... ก้อแอบขำในใจไม่ได้ว่า.... ถ้าสมมุติบอกแล้วบังเอิญเค้าบ้าจี้ทำตามจิงๆ ก้อคงไม่วาย
ว่าร้านนี้คงมีกระดาษสีขาว ติดที่หน้าร้านว่า....
"กรุณาเลื่อน" และ "เลื่อน"
ตัวหญ่ายยยยยยยยยยยยยยย
ติดทั้งสองฝากฝั่งประตูเหมือนเดิม 5555555555++

- - เ รื่ อ ง ขำ ๆ ข อ ง ง า น อ อ ก แ บ บ E p i s o d e 1- -

ได้รู้ได้เห็นผลการเลือกตั้งไปแล้วนะ....เหมือนเดิม...
ซึ่ง ใจจิง ก้อไม่ได้รู้สึก รู้สาอะไร เท่าไรหรอก กับ ผลการเลือกตั้ง...
แต่ว่าในใจก็แอบเชียร์ "ด็อกเตอร์แดนแคนดู" อยู่ลึกๆ
เพราะประทับใจ ป้ายโฆษณา หยเสียง ที่ดูดี สุดในหมู่มวล..555++
http://www.drdancando.com/html/index.php
เข้าเวบไซด์ แล้วรู้สึกได้ว่า เป็นคนรุ่นใหม่ และมีไฟดี … แต่ก็.......นะ….
*
*
หลังจากผลการเลือกตั้งได้ผ่านพ้น ก็เลยไม่ผิดมั้งที่จะนำเสนอ ป้ายหาเสียง
ของผู้สมัครท่านอื่นๆบ้าง.....เพราะคงไม่ใช่การช่วยหาเสียงใดๆ 555++
บังเอิญได้ไปเจอ ป้ายหาเสียง ที่แบบว่า....หาดูยากมาก
ทั่ว กทม. ส่วนใหญ่ ก้อมีแค่ป้ายหาเสียงของ ท่านผู้สมัครไม่กี่ท่าน
แต่ก็มีบางท่าน ที่ เราแทบไม่เคยเห็นเลย ก็เลยเอามาฝาก ค่ะ
ของดี หาดูยาก.................^__^
ปล... ไม่ขอแสดงความคิดเห็น ในเรื่องของการออกแบบนะคะ กัวติดคุก - -"
รู้สึกแค่ว่า บางทีการออกแบบ ป้ายหาเสียง นี่มันมีผลต่อความรู้สึกของคน เหมือนกันเนอะ
.........................


วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551

- เ ร า เ ป็ น บ้ า น ด น ต รี –

ฉลองสอบเสร็จ(แค่สามวิชา)ด้วยการไปแหกปากร้องเพลง
การร้องเพลง ดีอย่างว่า มันเหมือนการได้กู่ร้องตะโกน
ยิ่งซ้อมกันเป็นวง ความรู้สึกมันดีกว่าการร้องคาราโอเกะ
เยอะเลย.....ร้องๆ โยกๆ เหงื่อๆ สนุกดี

ปล.ขออย่างนะ เลิกให้ร้องเพลงผู้ชายทีเหอะ ถ้าจะให้ร้องก้อเปลี่ยนคีย์ให้ที
ร้องเสียงต่ำ หายใจไม่ออก - -“
(ถ้ามีเวลาจะหัดเล่นคีย์บอร์ด กะ ไวโอลิน บ้าง 555+)

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551

- ท ะ เ ล สี ดำ...ไ ม่ น า น ก็ เ ช้ า - -

วัยรุ่นตอนปลาย................หัวใจร่ำร้อง..

- - - O n - - t h E - - B e A c h- -

มีใครซักคนเอ่ยขึ้นมา บนรถที่วิ่งผ่าสายฝน
“ ไปทะเลกันไหม ????”
นั่นจึงทำให้เด็กๆ ในร่างผู้ใหญ่
กระดี๊กระด๊า มุ่งหน้าสู่บางแสน ^___^


อากาศเย็นๆ ลมแรงๆ
...ลมทะเลปะทะหน้า
...กลิ่นทะเลปะทะจมูก
...คลื่นทะเลปะทะเท้า

เหมือนเรื่องร้ายๆ ไหลลงไปกับทะเลสีดำ
^__^



ปล. เสียดาย....พี่เฟือง กับ พี่หมวย น่าจะมาด้วย - -"

ARS- - LONGA - - VITA - - BREVIS - ศิลปะยืนยาว - - ชีวิตสั้น

นี่อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เลือกเรียนออกแบบ....ในเมื่อเรารู้ว่า เราไม่ได้มีมันสมองอันดีเลิศ
พอที่จะก่อตั้ง ทฤษฏีสัมพันธภาพ ให้คนพูดถึง หลังจากที่เราตายได้...จะมีซักกี่อาชีพกัน..ที่คน
ยังสามารถพูดถึงได้ หลังจากที่เราไม่อยู่แล้ว.....หนึ่งในนั้นคือ....ศิลปะ......

ถึงแม้ว่า "ลีโอนาโด ดาวินชี"จะคิดค้นสิ่งต่างๆไว้มากมาย..แต่สิ่งที่เป็นเหมือนตัวแทนของนัก
ประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ กลับกลายเป็นรูปภาพของผู้หญิงที่มีรอยยิ้มอันลึกลับอย่าง “โมนาลิซ่า”
….แต่ถึงแม้จะคิดได้อย่างนั้น......... ฉันก้อไม่ได้มีฝีมือ ด้านศิลปะเอาเสียเลย... - -“
งานออกแบบ....อาคาร....สิ่งของ....กราฟฟิค....โลโก้.....มันจะมีค่าพอไหมนะ????????

ปล.อาชีพครู...อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางออกก็ได้...วันเกษียณอายุ...ทุกคนอยู่ในความรู้สึกอาลัย ทั้งๆที่เรายังไม่ตาย
น่าปลื้มใจมากจริงๆ.....อารยา ต้องอยู่จนอายุ 60 แล้วสัมผัสกับความรู้สึกนั้นให้ได้ ^___^

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

- - คื น ห นึ่ ง - -

" ทำอะไรอยู่ ????? "

เคยมีคำถามนี้ หรือเคยถูกใครถามคำถามแบบนี้บ้างหรือเปล่า...... ฉันเพิ่งถูกคนๆหนึ่งถาม.... ทำเอาฉันอึ้งไปมากเหมือนกัน....เป็นคำถามทั่วไปที่ไม่น่าจะมีความหมายอะไรพิเศษ…
วันนี้ฉันเก็บเอาคำถามนี้มาถามตัวเอง

...................วันนี้ฝนตกหนักๆ ในกรุงเทพ....... .......
.......................ฝนตก...........................
..................... ไม่มีร่ม....... ..................
......................ไม่มีรถ..........................
................... เดินเท้าเปล่าๆ.................
.......................ตัวเปียกๆ ...................
.......................ผ้าใบฉ่ำแฉะ................
....................น้ำขังในรองเท้า...............
........................เป้ใบใหญ่....................
.........................หนักอึ้ง..................

ฉันเดินไปบนพื้น ที่เต็มไปด้วยรถยนต์ที่วิ่งเหยียบน้ำ เป็นระลอกคลื่น ตามถนน...แม่โทรมาและถามว่า
- - - - - - - - - - - - -“ทำอะไรอยู่ ????? ”- - - - - - - - -
......ฉันไม่ตอบแต่ถามกลับแม่ด้วยคำถามเดียวกัน.........
แม่ก็เล่าให้ฟังถึงกิจกรรมภายในบ้าน..กินข้าวเย็นกับพ่อ...ลูกหมาแย่งลูกชิ้นกัน..บ่นเรื่องรถเสีย ตอนกำลังขับรถไปรับผ้า ที่ร้านซักรีด...ฯลฯ
*
ฉันกลับมาคิด.........
- - - - - - - แล้ว ฉันทำอะไรอยู่ ?????- - - - - -
ช่วงชีวิต ของคนๆนึง..น่าจะมีเรื่องให้ต้องจดจำเยอะ.....เรื่องที่กลับมามองแล้วขำกับมัน..ตอนนี้ฉันเหนื่อย..
แต่เชื่อว่าซักวัน ฉันคงยิ้มกับมันได้...แม่เคยเล่าเรื่อง...ชีวิตวัยเรียนอันโลดโผนของแม่ให้ฉันฟัง แล้วฉันก็ชอบที่จะฟังด้วย ….

คงจะดีไม่น้อย ถ้าอนาคต ฉันจะมีโอกาส นั่งเล่าเรื่องสุด แสนผจญภัย ของ “ชีวิตหญิงเดี่ยว” ให้กับลูกของฉันฟังบ้าง.......
บางทีฉันอาจต้องบันทึกเรื่องราวไว้เยอะๆ และหาประสบการณ์ อันระทึก ไว้มากๆ เพื่อที่จะได้มีเรื่องสนุกๆ เล่าให้ลูกฟัง....
และฉันก็คงรู้สึกดีมากๆ...ที่ได้ทำมันด้วย...
*
*
ปล. ฝนตกแบบนี้...เหงามากเหมือนกันนะ..แต่บางทีมีอารมณ์แบบนี้บ้างก็ดีเหมือนกัน...สู้ๆๆๆๆๆๆ นะ อารยา ^__^

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

. . .โ ด ด ง า น. . . ป า ย ม่ ว น. . .ที่ ส ว น ร ถ ไ ฟ . . .

อากาศดีๆ ที่มีในเวลาเช้า...... ไม่ได้ออกกำลังกายตอนเช้ามานานมาก เหมือนกันนะเนี่ย
อากาศดีจริงๆวันนี้..... โดดงานช่วงเช้าดีกว่า 5555++ หาเรื่องสบายๆให้ชีวิตบ้าง
วันนี้ตื่นเช้าซักหน่อย............ ตรงดิ่งไปสวนรถไฟ
ชาร์ตแบตเตอรี่ ให้ตัวเอง ^___^ ช่วงนี้งานหนัก นอนดึกมาหลายคืน ไปสูดเอาอากาศดีๆบ้าง
เพื่อเป็นพลังในการขับเคลื่อนชีวิตให้เดินต่อไป ......(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ดูเป็นเยี่ยง
แต่ไม่ควรเอาอย่าง เพราะอาจมีผลกับหน้าที่การงานของคุณได้ 5555++)
สวนรถไฟ ....เช้าๆ มีคนมากหน้าหลายตานะ มีตั้งแต่เด็กๆที่โดดเรียน มาออกเดทกัน - -“
ยันผู้สูงอายุ ที่มาจับกลุ่ม ชุมนุมพูดคุยกัน (ไปแอบนั่งฟังคนแก่คุยกัน...ได้อีกมุมมองความคิด..)
เสียค่าเช่า จักรยาน 20 บาท ปั่นๆๆๆๆ ให้เหงื่อซึม สูดอากาศดีๆกันคะ ^__^


ผลลัพธ์ที่ได้มา.........
นมขวดเดิม ขนมปังรสเดิม... ที่นั่งกินทุกเช้า ในออฟฟิต มันอร่อยกว่าเดิมมากจริงๆนะคะ
เมื่อไร ที่รู้สึกอ่อนล้า....ลองดูนะคะ ทำตามใจตัวเองบ้าง....ชาร์ตแบตเตอร์รี่กันคะ
*
*


“เธอถ่ายรูป.......ฉันถ่ายรูป “ (ขอลอกนะ ^__^ )

วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

- - ซ า กุ ร ะ บ า น ที่ ส ย า ม เ ซ็ น เ ต อ ร์ - -

วันว่าง ไปเดิน โต๊วเต๋~~ แถวๆ สยาม...แอบตกใจนึกว่า มาผิดที่ ผิดทาง
เพราะ ช่วงนี้ ที่สยาม มีการจัดประกวด คอสเพลย์ (Costplay 「コスプレ」, kosupure, – โคะซุปุเระ?)
คือ การแต่งกาย เลียนแบบตัวการ์ตูน,เกมส์,วง J pop,j rock ที่ตนชื่นชอบ
(ปรกติเคยเห็นแต่ในนิตยสารญี่ปุ่นหรือรายการ ที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ไม่นึกว่า
มันจะขยายอิทธิพลมาถึงเมืองไทย - -")
ฉันเองจึงรู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน ที่เดินๆอยู่ในสยาม แต่บังเอิญไปเจอกับตัวการ์ตูน อย่าง
นารูโตะ,ชีจัง,ซากุระ สึบาสะ555++
วัยรุ่นสมัยนี้....ทำให้ฉันไม่เข้าใจ....บางทีฉันเองอาจจะแก่เกินกว่าที่จะเข้าใจไปแล้ว...5555++
* * * * (แต่บางคน แต่งตัวได้น่ารักจริงๆนะคะ สาวๆ หนุ่มๆ คอส ^___^)
-*
*
- - -งาน Japan Fest ที่ลานหน้า สยามพารากอน

- - -สาวหน้าใส ตาโต - -

- - แก้งค์ นารูโตะ - -

- - แม้แต่ร้าน Loft สุดเท่ห์ ก็มีกระแส ญี่ปุ่นกับเค้าด้วย แอบมีซากุระบาน อยู่กลางร้าน 55555++

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

- - Welcome… to…. Rukluke- -

เวลา ในแต่ละปี ผ่านพ้นไปเร็วเหลือเกิน เมื่อไม่นานมานี้ ยังเป็น รุ่นน้องของรักลูก อยู่เลย
เผลอๆ กลายเป็นรุ่นพี่ไปซะแล้ว ..... ที่บริษัทอื่นๆ ไม่รู้มีกิจกรรมนี้ไหม แต่ที่รักลูกมีการรับน้องด้วยคะ
กิจกรรมที่ว่า จะแบ่งรุ่นน้องเป็น สี่กลุ่ม เวียนไปตามแผนกต่างๆ เพื่อให้รุ่นพี่ กลั่นแกล้ง ^__^ ...
ในวันรับน้องทุกคนจะบันเทิงมากเป็นพิเศษ เพราะในช่วงบ่าย ทุกคนจะถูกห้ามไม่ให้ทำงาน และมี ดีเจ เสียงใส
รายงานความเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ ในเสียงตามสาย ของรักลูก เรดิโอ ^__^ ส่งสัญณาณ ให้มีการเปลี่ยนกลุ่ม
เปลี่ยนฝ่าย หมุนเวียนกัน… ปีนี้รุ่นน้องเยอะจริงๆคะ 40 คนแน่ะ
บริษัท เติบโตขึ้นเรื่อยๆ. . . . . .
แต่ทำไมเราตัวเล็กลงเรื่อยๆหว่า ........
*
*

*
*

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

- - วิ ธี ด า ว น์ โ ห ล ด วี ดี โ อ ล ง B l o g - -

- - จ ด ห มา ย ลึ ก ลั บ จ า ก อี ก โ ล ก ห นึ่ ง - -

ตอนนี้ ที่บริษัท รักลูก มีกิจกรรม ที่น่ารักมากมาย ^__^
"My Buddy" กิจกรรมประหลาดๆ ที่ตอนแรก ฉันมองว่า ไร้สาระมาก
เพราะ จะต้องหาของขวัญมาส่ง บัดดี้ ที่เราจับฉลากได้ ทุกวันเป็นเวลา ครึ่งเดือน(ภาระแท้ๆ - -")
....และจะต้องห้ามเปิดเผยตัวกับ บัดดี้ที่จับฉลากรู้ด้วย - -"
(ฉันจึง..ต้องสวมวิญญาณแปลงร่างเป็นคุณลุงซานต้า แอบย่องมาให้ของขวัญ...ต่างกันตรงที่....
ซานต้าให้ของขวัญตอนกลางคืน..แต่ฉัน ต้องตื่นแต่เช้า มาวางของขวัญ ให้ Buddy แต่เช้า - -" )

เวลา ผ่านไป สี่วัน... ฉันได้รับขนม จากบุคคลลึกลับ ผู้ไม่เปิดเผยตัว พร้อมข้อความสั้นๆ
นั่งกินขนมไป... พร้อมนึกเล่นๆไป บัดดี้ ของฉันจะเป็นใครกันนะ .... ตื่นเต้นดี ....



เลยทำให้นึกถึง ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ที่ชายหนุ่มผู้ที่ "นิ้วกลม" ที่สุดในโลก เคยได้เล่าให้ฟังถึงกิจกรรม
ที่เค้าเคยได้ผ่านพบมา กิจกรรม ‘Everyone likes someone as you like someone.’ —
การวาดรูป หย่อนส่งลงในตู้ไปรษณีย์ ถึงใครก้อไม่ทราบได้ ......

" ทุกคนชอบใครบางคน เหมือนที่เธอชอบใครบางคน ”
ภาพวาดภายในซองนี้ วาดโดยใครบางคนในอีกประเทศหนึ่ง เป็นภาพของคนพิเศษของพวกเขาเหล่านั้นและเป็นของที่ระลึกสำหรับเธอ
1. วาดภาพใบหน้าคนพิเศษของเธอลงบนไปรษณียบัตรเปล่าภายในซอง
2. นำภาพที่เธอวาดเสร็จแล้ว ไปหย่อนลงกล่องรับจดหมายใบใดใบหนึ่ง
วันหนึ่งภาพของเธออาจเป็นของที่ระลึกสำหรับใครบางคนในอีกประเทศหนึ่งเช่นกัน

แค่อ่านก็ยิ้มแล้ว แต่ความสนุกไม่หมดแค่นั้น เมื่อวาดเสร็จ เรายังต้องปีนขึ้นไปหย่อนไปรษณียบัตรกันถึงยอดเขา แถมภูเขาลูกนี้ก็น่านอนหลับตรงนั้นเสียจริง นุ่ม เย็น สบาย

ผมเก็บรูปวาดของน้องเจนนากลับบ้านมา (ว่างๆ จะนำมาแปะโชว์ครับ) แล้วหย่อนรูปคนพิเศษของผมลงไปในกล่อง ไม่รู้เหมือนกันว่าวันหน้ามันจะเดินทางไปอยู่ในมือของใคร ประเทศไหน หยิบรูปวาดผู้หญิงปากแดงหัวยุ่งๆ ของน้องเจนนาขึ้นมาดูอีกรอบ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เธอผู้นี้เป็นใคร

รู้อย่างเดียวว่า เธอไม่ใช่คนธรรมดา เพราะมีคนแอบชอบเธออยู่ตั้งหนึ่งคน"

*
*
*
*
ตื่นเต้น ที่จะได้เจอเธอ จริงๆ " My...... Buddy" ^___^

วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2551

- - ก ล้ อ ง โ ล โ ม - -

ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา มีโอกาส ได้ไปขุดคุ้ยขยะในห้องนอนเก่า.... บังเอิญไปเจอกล้องโบราณ มรดกตกทอดจากคุณพ่อ กล้อง minolta โบราณ ตัววัดค่าแสง ยังเป็นแบบเข็มอยู่เลย555+ ...เป็นกล้องตัวที่พ่อเคยใช้สมัยที่พ่อยังเป็นนักศึกษาหนุ่มหล่อ^__^ คลาสสิค สุดๆ การได้ใช้กล้องตัวเดียวกันกับพ่อ มันรู้สึกดีมากนะ เหมือนได้มองอะไรผ่านเลนส์ ผ่านมุมมองเดียวกัน

+...กล้องฟิล์ม...มันช่างมีเสน่ห์จริงๆ..การจะกดชัตเตอร์แต่ละครั้ง ต้องปรับค่าชัตเตอร์สปีต ค่าเอฟสตอป ปรับโฟกัส ดูค่า under..over อะไรวุ่นวาย..แต่นั่นล่ะ คือเสน่ห์ของมัน...การตัดสินใจจะกดชัตเตอร์แต่ละครั้ง ต้องผ่านการคิดคำนวณมาแล้วว่า ภาพที่ออกมาจะเป็นยังไง...วาดภาพไว้ในหัว..แล้วมานั่งลุ้นกันอีกที ตอนที่ฟิล์ม ถูกล้างออกมา...ภาพที่เราวาดไว้ ออกมาจะเป็นดังที่คิดหรือไม่.....ภาพถ่าย กล้องฟิล์มมันถึงมีเสน่ห์ยังไงล่ะ..."Don't think just shoot!!! "

ยุคปัจจุบัน.. และกล้องดิจิตอล คงไม่ต่างกัน....ผู้คนคบหากันด้วยความฉาบฉวย..ต้องการรู้ผลตอนนั้น..อยากดูภาพ อยากเห็นผลกัน ณ ตอนนั้น เวลานั้น.. ไม่ได้ตัดสินใจ ไม่ได้คิด ไตร่ตรอง...ความรู้สึกของฉัน กับการถ่ายภาพ มันก็เลย ค่อยๆ ลดน้อย ถอยลง จนมองเป็นเรื่อง ธรรมดา.............

จนกระทั่ง...ล่าสุด ไปเจอของเล่นใหม่ มาคะ... ตื่นเต้นสุดๆ กับเจ้ากล้อง โลโม (Lomography)จริงๆแล้ว ไอ้กล้องตัวนี้ มันถือกำเนิดมาได้นานแล้ว ละคะ แต่ฉันไปซ่อนตัวที่ไหนอยู่ก็ไม่รู้ ถึงเพิ่งรู้จักมัน 555 ของเล่น ราคาย่อมเยาว์ พร้อมลูกเล่นมากมาย วันนี้จึงมาแนะนำให้รู้จักกันค่ะ........."การกลับมา ของกล้องฟิล์ม"......^____^

กล้อง Lomo pop 9 ของเล่นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจ


lomo Action Sampler Flash สี่ตาตอนกลางคืน ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป


lomo Super Sampler AS 3.0 "The Queen"


ยังมีอีกหลายรุ่น ที่น่าเล่นคะ เข้าชมที่เวบไซด์นี้เลยนะ ^__^
http://www.lomothai.com

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2551

- - โ ล ก ร้ อ น ๆ ที่ เ ซ็ น ท รั ล เ วิ ร์ ด - -

* ฝนตั้งท่า ว่าจะหยุดตกแล้ว ฉันถือน้ำปั่น และลูกชิ้นปิ้งในมือ น้ำจิ้มเหนียวหนึบ เกาะติดกับไม้
ฉันเดิน ดูน้ำพุหน้าเวิร์ดเทรด สะท้อนแสงสวยดีจัง


** จะเคยมีซักกี่คนกัน ที่จะมีโอกาส ดูนิทรรศการภาพ ด้วยความสบายอารมณ์ขนาดนี้ 555++ ฉันเดินกินลูกชิ้นปิ้ง
พลางดูดน้ำกีวีปั่น อากาศเย็นๆ ขนาดนี้ กลับมีนิทรรศการ แสดงภาพ ช่วยลดโลกร้อน ภาพถ่ายสวยมาก อยากถ่ายภาพออกมาได้
สวยเหมือนต้นฉบับ แต่ด้วยอุปกรณ์ กล้องมือถือ ความละเอียดภาพต่ำของฉัน จับภาพมาได้แค่เท่าที่เห็นนี่ละคะ - -"

** ลานนวดข้าว ที่เชียงราย ประเทศไทย


**ทะเลสีเหลือง ในเมดิเตอร์เรเนียน ที่เกิดจากคราบน้ำมัน


**ลานตากผ้า ที่อินเดีย (สีสัน.....สดดีจริงๆ)


** เขาวงกตต้นไม้ ที่ไหนซักที่หนึ่ง


ปล. ยังมีอีกหลายภาพ เหลือเกินคะ ที่สวยๆ ขออภัย ที่ถ่ายมาฝากได้เพียงเท่านี้ ... ด้วยความเพลินในการดูงานแสดงภาพของฉัน ไม้ลูกชิ้น จิ้มถุงทะลุ น้ำจิ้มเปรอะมือ เต็มไปหมด ทำให้ต้องหยุดการชมภาพแต่เพียงเท่านี้..... ว่างๆไปชมกันนะคะ งานยังมีแสดงต่อเรื่อยๆ ^__^

::: บังเอิญได้ผ่านไปแถวนั้นอีกครั้ง เลยแวะ ไปเก็บรูปมาฝากอีกค่ะ เพิ่มเติม ^__^


:: แนวปะการัง สีเขียว เหมือนหมู่เกาะเลย ^__^


:: ไฟป่า เผาต้นไม้ใหญ่ ที่ลุกลามอย่างช้าๆ จนเผาไหม้ไปในที่สุด (เผาจนเป็นขี้เถ้ารูปต้นไม้เลย สุดยอดดดดด )